วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2552

Dialogue Interview as Internal Audit



System audit such as ISO / HACCP ,nowaday is going into a terible way.
Many audit make people (employee) hate the system , hate the auditors and finally hate the organization.

I-in-it and I-in-me are the normal social fields during the audit. These auditors need improvement.

Dialogue interview is a new way to enchance both producitivity and learning in the organization.

Dialogue Interview (DI) สุนทรียสนทนา เพื่อพัฒนาองค์กร

หลายคน เจอ ความอหังการ บ้าเลือดของเหล่าผู้ตรวจประเมิน มาเยอะมาก จนเกลียดทุกระบบ ที่ต้องมาตรวจ ตั้งแต่ 5s / ISO / GMP / HACCP / TPM ฯลฯ เพราะ พวกตรวจประเมิน นี่แหละ ตรวจไม่เป็น แถมยัง ถ่ายทอด วิชาเพี้ยนๆ ต่อกันมาเป็นรุ่นๆ ...... งานได้ผลเล็กน้อย คนเสียหายมากมาย ... คนโดนตรวจ เรียนรู้ ที่จะ หลบ พูดน้อย โกหก ฯลฯ

การตรวจประเมินนั้น คนตรวจต้องผ่านการฝึก deep listening มาเยอะๆ ฝึกดูจิต ฝึกการเป็นกระบวนกร (Facilitator) มาพอสมควร รู้จักการพาคนในวง เข้าสู่ I-in-you ได้

ตอนนี้ ยิ่งตรวจ ยิ่งแค้น ยิ่งตรวจยิ่งเกลียด ..... ยิ่งตรวจ ยิ่งหลงตนเอง ....

ในการทำ DI ..... ผมได้ปนๆเอา การทำ Ohno cycle ลงไปด้วย คือ ให้ ทั้ง Auditor (คนตรวจประเมิน) และ Auditee (คนถูกประเมิน) เข้าไปยืนนิ่งๆ ประมาณ ๓๐ นาที ในสถานที่ๆ จะประเมิน

คนที่จะเข้าไปยืนนิ่งๆนี้ ต้องฝึก ภาวนาก่อนนะครับ ดูจิตเป็นแล้วด้วย ไม่งั้น จะไปยืนแล้วโดนนิวรณ์เล่นงานแน่ๆ (เบื่อ กังวล ฟุ้งซ่าน เครียด ฯลฯ)

การประเมิน แทนที่จะ บ้าเลือด ไล่ถามตาม Checklist แบบเก่า เปลี่ยนมาเป็น วงเล่าเร้าพลัง (Storytelling)

มีการละลายพฤติกรรม กันในวงสนทนากันเล็กน้อย เช่น ร้องเพลง แต่งกลอน กอดกัน จับมือกัน ไปจนถึง อยู่กันเงียบๆ (Silent) สัก 5 นาที หรือ สวดมนต์ ทำสมาธิดูลมหายใจ ....

คุยกันไปเรื่อยๆ ชวนคุย พูดทีละคน อย่าแย่งกัน

เข้าสู่ Flow เพื่อให้ เกิดการ spark .... Flow คือ คุยกันแล้ว ไหลลื่น ไม่ขัดใจกัน ทำตัวเป็น wave เพราะ ถ้าติดขัด จะกลายเป็น particle

ที่ติดขัด ก็เพราะ ความคิดปรุงแต่ง อัตตา มันเข้ามาป่วน wave เลยกลายเป็น particle หรือ จากสงบๆ จาก ความว่าง (space อวกาศ นามธรรม จิตว่างๆ วิมุติ ) โดยการปรุงแต่ง ยึดมั่น ถือมั่น กลายมาเป็น ดวงดาว เป็นรูปธรรม จิตไม่ว่าง เป็นสมมติ )

การล้อมวงคุย แบบนี้ จะเปิด หู เปิดตา และ เปิดใจ (Open mind, open heart) .... เมื่อจิตสงบ ปัญญาเกิด .... ทุกคนจะเกิดแนวคิด ผุดขึ้นมา (spark) ทั้ง ผู้บริหาร คนถาม คนฟัง คนจด เจ้านาย คนสังเกตการณ์ และ คนโดนประเมิน (เจ้าของกระบวนการ ซึ่ง มีหลายแผนก หลายฝ่าย) ... นี่แหละ นำไปสู่นวตกรรม นำไปสู่ การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เนียนๆ นุ่มๆ (Kaizen)..... " งานได้ผล คนได้พัฒนา"

เมื่อจะปิดการล้อมวง (Closing meeting) เราก็จะ ร่วมกัน เขียน What to do ด้วยกัน ทั้งวงเลย ทั้งคนโดนประเมิน และ คนประเมิน ว่าเราจะทำอะไรต่อไป เราเรียนรู้อะไร เรายังไม่รู้อะไร เราเปิดแรงใจเราออกมา (Open will)

การทำ DI เป็นอย่างไร ก็ลองๆเอาไปทำดู ได้ผลอย่างไร จะรู้เอง มันมากเกินกว่าจะบรรยายครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น